7 สุดยอดแปรงปัดแก้ม ใช้งานได้ดี คุ้มค่า คุ้มราคา อัพเดทล่าสุดปี 2567

ค้นหาสินค้าคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ดังกว่าร้อยแบรนด์ และร้านค้าแนะนำอีกมากมาย แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ช้อปสิ่งที่ชอบ เพิ่มสิ่งที่ใช่ให้ชีวิต ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน มาเพิ่มสิ่งที่ชอบได้อย่างไร้ขีดจำกัด
สินค้ามาใหม่ ราคาคุ้มค่า เราแนะนำเลยเจ้านี้ แปรงปัดแก้ม  สินค้าออนไลน์  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง แปรงปัดแก้ม  ไป ถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก สินค้าดีๆ ราคาถุก จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อแปรงปัดแก้มแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง แปรงปัดแก้ม นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในแปรงปัดแก้มอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ แปรงปัดแก้มแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

ชีวิตประจำวันของเราต้องพบปะผู้คนมากมายซึ่งแน่นอนว่าบุคลิกภาพและการแต่งหน้านั้นก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยเพิ่มเสน่ห์และแสดงถึงตัวตนของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามการแต่งหน้าที่ดีนั้นไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามบนใบหน้า แต่ยังรวมไปถึงสุขภาพผิวหน้าที่ดีโดยเฉพาะบริเวณแก้มที่เป็นจุดเด่นของใบหน้าอีกด้วย "แปรงปัดแก้ม" จึงเป็นหนึ่งในอุปกรณ์แต่งหน้าที่สาว ๆ หลายคนคุ้นเคย และต้องมีไว้ในครอบครองกันอยู่แล้ว

เมื่อพูดถึงการปัดแก้มหลายๆ คนอาจพบว่าแปรงที่ซื้อมา สีติดขึ้นมาไม่สม่ำเสมอบ้าง แปรงบาดหน้าบ้าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความกังวลให้กับเราไม่น้อย ดังนั้นการเลือกแปรงให้ตรงกับการใช้งานและมีคุณภาพดีปลอดภัยต่อผิวจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีแปรงปัดแก้มคุณภาพหลากหลายแบรนด์ให้เราเลือกซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง MAC, NARS, ZOEVA, Real Techniques ฯลฯ โดยในบทความนี้ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านไปค้นพบเคล็ดลับการเลือกซื้อแปรงปัดแก้มดี ๆ และนำเสนอ 10 อับดับ แปรงปัดแก้มยอดนิยม ที่ได้รับการรีวิวจากผู้ใช้จริงว่ามีคุณภาพดี แถมยังยกให้เป็นแปรงที่คู่ควรกับกระเป๋าเครื่องสำอางกันเลยทีเดียว
วิธีการปัดแก้มนั้นมีหลากหลายสไตล์ตามเทคนิคของแต่ละคน แต่รู้หรือไม่ว่าปัจจัยที่จะทำให้ผลลัพธ์ในการปัดแก้มออกมาดูดี เป็นธรรมชาตินั้นมาจากแปรงปัดแก้มที่ใช้ รูปร่างของแปรงตลอดจนวัสดุขนแปรงด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นบรรดามืออาชีพ บิวตี้บล็อกเกอร์หรือมือใหม่ก็ต้องศึกษารายละเอียดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีเช่นเดียวกัน

เพราะความละเอียดและขั้นตอนที่หลากหลายของการแต่งหน้าส่งผลให้มีการออกแบบรูปร่างแปรงมาเพื่อจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สำหรับแปรงปัดแก้มนั้นหลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 4 ชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดมีรูปร่างและมีประโยชน์อย่างไรนั้น วันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมมาให้อ่านกันแล้ว

เริ่มกันที่รูปทรงแรกคือทรง "หัวแบน" ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก ปลายแปรงมีลักษณะแคบเพื่อให้สามารถเข้าไปในบริเวณเล็กๆอย่างซอกข้างจมูกได้ ปลายขนแปรงจะเป็นหน้าตัดแบบกลมมน ช่วยควบคุมน้ำหนักสี ปริมาณ และการกระจายตัวของบลัชออนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังนิยมใช้กับฟังก์ชั่นอื่นนอกเหนือจากการปัดแก้มเช่น การไฮไลท์หรือการลงคอนซีลเลอร์ อีกด้วย

แปรงปัดแก้มชนิดนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งปัดบริเวณแก้ม หรือจะใช้เป็นแปรงอเนกประสงค์ก็ได้เช่นกัน หากใครที่เป็นมือใหม่ในการแต่งหน้าและยังไม่มีข้อมูลว่าควรเลือกซื้อแปรงแบบไหนดี แปรงปัดแก้มชนิดนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้น ๆ เลยค่ะ

ถัดมาเป็นแปรง "หัวกลม" ซึ่งเรียกชื่อตามลักษณะที่เมื่อมองจากปลายขนจะเห็นว่าเป็นทรงกลม เป็นแปรงที่เราพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีลักษณะกลมฟูเป็นพุ่ม วิธีใช้คือปัดไปตามบริเวณที่ต้องการหรือจะเกลี่ยวน ๆ เป็นวงกลมก็ได้ ทั้งนี้เพื่อเน้นให้บลัชออนสามารถกระจายได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมชาติ ควรเลือกแปรงกลมที่มีขนาดพอดีกับแก้มของเรา เพราะถ้าหากขนาดเล็กเกินไป อาจทำให้การลงสีไม่ทั่วถึงและเกิดเป็นจ้ำ ๆ ได้

สำหรับแปรง "หัวเฉียง" นั้นไม่ได้นิยมนำมาใช้สำหรับปัดแก้ม เพราะปลายแปรงที่มีหน้าตัดเฉียง จึงเหมาะกับการใช้เป็นอุปกรณ์ในการเฉดดิ้งและไฮไลท์เพื่อปรับรูปหน้ามากกว่า ถือว่าเป็นแปรงที่บรรดามืออาชีพเลือกใช้กันเป็นอย่างมาก มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้าอาจจะใช้งานได้ยาก ต้องอาศัยการฝึกฝนนะคะ

ตัวสุดท้าย คือ แปรงหัวมนหางกระรอกหรือที่หลายๆคนอาจจะคุ้นชื่อว่าเป็น เบลนดิ้งบลัช (Blending Brush) สำหรับแปรงรูปแบบนี้จะมีขนแปรงยาวและแคบลงที่ส่วนปลาย พุ่มแปรงไม่หนามาก เพื่อให้การเบลนสีฟุ้งกลมกลืนกัน แถมยังทำให้เกิดความบางเบาสวยเป็นธรรมชาติอีกด้วย

มาที่ส่วนประกอบสำคัญอย่าง “ขนแปรง” กันบ้าง ส่วนใหญ่เป็นที่ทราบกันดีว่าแปรงปัดแก้มนั้นมีทั้งที่ทำจากธรรมชาติหรือขนสัตว์และขนที่สังเคราะห์ขึ้น
สำหรับ “แปรงขนสัตว์” เช่น แปรงขนกระรอก ขนแพะ และขนม้า ก็จะมีลักษณะสีต่างกันออกไป โดยขนกระรอกและขนม้าจะมีขนแปรงออกสีดำหรือสีน้ำตาล ส่วนขนจากแพะจะมีสีขาวนวล จุดเด่นของขนสัตว์คือมีลักษณะเป็นเกล็ดซ้อนกันตามธรรมชาติทำให้จิกสีบลัชออนได้ดี อีกทั้งยังช่วยกระจายอณูแป้งบนใบหน้าทำให้สีชัดและติดอยู่บนใบหน้าของเราได้ยาวนาน นอกจากนี้ขนสัตว์ยังมีความนุ่ม ละเอียด ทำให้การเสียดสีกับผิวหน้าหรืออาการแปรงบาดหน้าเกิดขึ้นได้น้อยมาก
แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าความนุ่มนิ่มอ่อนโยนต่อผิวหน้าจะสร้างความประทับใจให้กับสาวๆ หลายคน แต่เจ้าขนสัตว์นี้ยังกวนใจเราเล็กน้อยด้วยราคาที่ถือได้ว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับขนสังเคราะห์ โดยเฉพาะขนแปรงที่ทำมาจากขนแพะและกระรอก แถมยังเสียรูปได้ง่ายหากทำความสะอาดบ่อยครั้งอีกด้วย
ส่วน “แปรงขนสังเคราะห์” นั้น เป็นเส้นใยที่เน้นความนุ่ม สังเคราะห์ขึ้นเพื่อเลียนแบบขนสัตว์ ซึ่งข้อดีขนแปรงประเภทนี้คือ ความคงตัวไม่เสียรูป ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ว่าล้างกี่ครั้งก็ยังคงทนทาน ช่วยลดโอกาสการเกิดแบคทีเรียสะสมซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้ดีกว่าขนสัตว์ แถมยังเอาใจชาวโต๊ะเครื่องแป้งด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้อีกด้วย ถึงอย่างนั้น ขนสังเคราะห์ก็ยังมีข้อจำกัด คือ จับสีบลัชออนหรือเครื่องสำอางประเภทผงได้น้อย ดังนั้นจึงนิยมใช้กับเครื่องสำอางประเภทน้ำและเนื้อครีม เช่น ครีมบลัชหรือรองพื้น เป็นต้น
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์หรือขนสังเคราะห์ การเลือกให้เหมาะกับวิธีใช้งานของเราให้มากที่สุดก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกนั่นเอง
ปิดท้ายกันด้วยขนาดของแปรง โดยปัจจุบันแปรงปัดแก้มจะมีขนาดตั้งแต่ 10 cm.ไปจนถึง 20 cm. แน่นอนว่าในแต่ละแบรนด์ก็จะมีขนาดให้เราได้เลือกอย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรานั่นเอง

สำหรับใครที่มองหาแปรงไว้ติดโต๊ะเครื่องแป้งหรือใครชอบแต่งหน้าที่บ้าน ก็อาจจะเลือกแปรงที่มีความยาว เพื่อให้หยิบขึ้นมาใช้งานได้สะดวก จับถนัดมือ แต่หากใครที่ต้องแต่งหน้านอกสถานที่ ขอแนะนำให้เลือกใช้แปรงขนาดพกพาแทน หรือจะมีทั้งแปรงสำหรับแต่งหน้าที่บ้านและอีกอันสำหรับพกพา ก็เป็นไอเดียที่ทำให้คุณสะดวกทีเดียว

ถ้าหากกำลังมองหาแปรงปัดแก้ม ขอบอกเลยว่าแบรนด์ BrushToo เป็นอีกแบรนด์ที่ถูกและดี ที่สำคัญคือ มาตรฐานการจัดเรียงเส้นขนที่นุ่มแน่นและสม่ำเสมอ ทำให้ตัวแปรงจิกเนื้อสีได้ดี และแปรงที่จะแนะนำชิ้นต่อมาก็คือ แปรงทรงพุ่มกลมมน Tapered Blush Brush สำหรับปัดแก้มชิ้นนี้ เชื่อว่าคงเป็นอีกหนึ่งแปรงในดวงใจของสาว ๆ ได้อย่างแน่นอน เพราะขนแปรงที่นุ่มแน่นอยู่ทรงแต่ไม่บาดผิว ขนแปรงมีความฟูและนุ่มเด้งทำให้แตะเนื้อผลิตภัณฑ์ได้สีชัดเจน

เทคนิคการใช้คือ แตะแปรงไปที่สีบลัชออน แต่ก่อนจะลงสีไปที่หน้าเรา ให้แท็บสีลงที่หลังมือเล็กน้อยเพื่อเบรคสีและทำให้ฝุ่นสีกระจายตัวในแปรงได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้น การปัดแก้มที่ออกมาสวย คือ สีของบลัชออนจะต้องนวลเนียนไร้ขอบ เพราะฉะนั้นเวลาเพื่อน ๆ ลงสีแก้มให้ลงสีทีละน้อย ๆ อย่างเบามือนะคะ จะใช้การปัดวนหรือการแท็บก็ได้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนเลยค่ะ เทคนิคของเกษเวลาปัดแก้มคือ ลงสีที่อ่อน ๆ ก่อนทั่วพวงแก้ม ถ้าต้องการเข้มขึ้นให้ค่อย ๆ บิ้วท์สีที่เข้มขึ้นเพิ่มทีละนิด ๆ เพียงเท่านี้เราก็จะมีพวงแก้มสดใสเปล่งปลั่งสุขภาพดี ไม่เป็นแก้มลิงอย่างแน่นอนค่ะ
จากความพิถีพิถันในการคัดสรรแปรง และแล้วก็เข้าสู่ช่วง 10 อันดับแปรงปัดแก้มยอดฮิต ที่นอกจากคุณภาพจะครองใจเหล่าเมคอัพอาร์ติสท์แล้ว ยังเป็นไอเทมที่สามารถเลือกซื้อออนไลน์ได้ และยังได้รับการรีวิวจากผู้ใช้มากมายอีกด้วย จะเป็นไอเทมที่ผู้อ่านมองหาอยู่หรือไม่นั้น ตามมาชมกันเลย

ถ้าพูดถึงแบรนด์ NYX สาว ๆ หลายคนคงนึกถึงแต่เครื่องสำอางใช่ไหมคะ จริง ๆ แล้วเขายังมีแปรงคุณภาพดีด้วย อย่างรุ่นนี้เป็นแปรงหัวกลม ทำจากขนสังเคราะห์คุณภาพเยี่ยม ให้สัมผัสที่นุ่มและแน่นกำลังดี สามารถใช้ได้ทั้งปัดแก้มและลงรองพื้น หากใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์เนื้อครีม ก็จะเกลี่ยได้อย่างเรียบเนียนสนิท


นอกจากนี้ยังทำความสะอาดง่าย เนื่องจากขนสังเคราะห์ที่ทนทานต่อการซักล้าง ทำให้หมดห่วงเรื่องขนแปรงขาดหลุดร่วงไปได้เลยค่ะ

มาต่อกันที่แปรงจาก BRUSHWORK Cosmetics กันบ้าง แน่นอนว่า Collection ของแบรนด์เน้นที่ความเฉี่ยวของสีน้ำเงินตรงปลายตัดกับดำ เป็นแปรงที่มีขนนุ่มมาก ๆ เพราะผลิตจากขนสังเคราะห์พรีเมียม และยังมีคุณสมบัติเด่นคือ ขน Anti-Bacteria ที่สามารถป้องกันการเกิดแบคทีเรียที่ต้นเหตุของปัญหาผิวได้ด้วย

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ชอบลงบลัชแบบหนักมือแต่กลัวแก้มจะแดงเกินไป ตัวนี้ก็ออกแบบมารองรับการใช้งานของเราได้ดี เพราะความฟูและบางของแปรงจะช่วยให้แปรงกระจายได้ทั่วและได้ลุคฟุ้ง ๆ นั่นเอง นอกจากนี้ขนาดของพุ่มแปรงที่พอดีกับพวงแก้ม ช่วยประหยัดเวลาในการเกลี่ยผลิตภัณฑ์ เพราะเพียงแค่ใช้แปรงรุ่นนี้ปัดเบา ๆ ก็ได้แก้มที่มีสีสันชวนมองแล้วค่ะ


ฟินกันให้สุดสำหรับแบรนด์จากบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังที่สร้างความนิยมจากผู้ใช้ทั่วโลก ด้วยจุดเด่นของแปรงที่มีน้ำหนักเบา ขนาดพอดีมือ สำหรับใครที่ชอบความแปลกใหม่ Real Techniques ก็จัดให้ด้วยแปรงที่มาพร้อมกับด้ามจับตั้งได้ ซึ่งทำจากอะลูมิเนียมสีชมพูมีสไตล์ ถูกใจสาว ๆ หลายคนสุด ๆ แถมขนแปรงสังเคราะห์ยังมีความทนทาน สีไม่ตก แห้งเร็วแม้ทำความสะอาดบ่อยครั้ง

ที่สำคัญยังได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในแปรงที่มีความนุ่มที่สุดอีกด้วย และไม่ว่าจะลงแป้ง บลัชออน บรอนเซอร์ แบรนด์นี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเพราะสามารถจิกและกระจายอณูแป้งออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่หากใครที่ชอบการแต่งหน้าที่เน้นสีบลัชบริเวณพวงแก้มหรือเป็นคนมือหนักแล้วล่ะก็ อาจจะต้องมองหาชิ้นอื่นแทน เพราะไม่อย่างนั้นแก้มอาจจะแดงเกินงามได้
เมื่อพูดถึงความทนทานต้องยกให้แปรงจาก Lunasol ไปเลย เพราะของเขาดีจริงๆ ถึงขนาดที่ได้รับการรีวิวจากผู้ใช้จริงว่า ใช้ได้ยาวนานกว่า 10 ปีเลยทีเดียว ส่วนความนุ่มละมุนของขนแปรงเป็นพิเศษ เพราะขนแปรงทำมาจากหนึ่งในขนกระรอกแท้พันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง blue squirrel ทำให้เกลี่ยสีได้อย่างเรียบเนียนเข้ากับผิวได้เป็นอย่างดี ไม่เป็นปี้น ได้ความฟุ้งวาว ทำให้หน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ที่ชอบการลงสีให้เกิดความเนียนสวยในลุค Matt-Satin เรียกได้ว่า เป๊ะปัง คุ้มค่าน่าลงทุนมาก ๆ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณภาพจะโดนใจหลายๆ คน แต่คุณสมบัติของแปรงตัวนี้ก็ยังคงเน้นไปที่การลงสีให้เนียนและบางเบา ดังนั้นใครที่ชอบลงสีหนัก ก็อาจจะต้องมองหาตัวอื่นแทน และที่สำคัญก็อย่าลืมว่าสรรพคุณด้านความทนทานที่ได้มานั้น ส่วนหนึ่งก็ต้องมาจากการดูแลอย่างถูกวิธีด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งแปรงสุดฮิตจากอเมริกาที่หลายคนชื่นชอบ เพราะนอกจากความลงตัวของขนแปรงแบบผสมแล้ว ยังมีความนุ่มละมุน ไม่บาดผิวหน้า ขนแปรงบางเบาไม่แน่นจนเกินไป ทำให้สามารถกระจายสีได้สม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติสุด ๆ เหมาะกับการเน้นสีบริเวณโหนกแก้มอย่างยิ่ง สำหรับใครที่ชอบการแต่งหน้าแบบโปร่งสบายเป็นธรรมชาติ ตัวนี้คือทางเลือกที่น่าสนใจมาก แถมยังได้รับการขนานนามให้เป็นพี่น้องกับแบรนด์ดังอย่าง MAC เลยทีเดียว

นอกจากนี้ด้ามจับยังชุบด้วยโลหะและดีไซน์มาเพื่อให้จับได้ถนัดมือ ทำให้สาวๆ สนุกกับการแต่งหน้าได้มากยิ่งขึ้น แต่อาจต้องระมัดระวังเรื่องการล้างทำความสะอาดเพราะขนแปรงค่อนข้างแห้งช้า ถ้าทำความสะอาดไม่ถูกวิธีจะมีผลต่อการหลุดร่วงของขนแปรงได้มากทีเดียว
แปรงปัดจาก NARS แบรนด์ขึ้นชื่อเรื่องการจิกสีบลัชที่แน่นสุดๆ ถูกออกแบบให้ขนแปรงไล่ระดับโค้งเรียวอย่างสวยงามลงตัว ขนแปรงทำจากขนแพะสีดำชั้นดี เหมาะสำหรับใช้ปัดแก้มและไฮไลท์ ยิ่งถ้าใช้กับบลัชออนสีเข้มของ NARS ก็ยิ่งคุมสีได้ดี หรือจะใช้เกลี่ยแป้งฝุ่นก็สามารถทำได้ สาว ๆ ที่ชอบการไล่ระดับสียิ่งต้องห้ามพลาด เพราะด้วยขนแปรงที่ไม่นุ่มไม่แข็งจนเกินไป ทำให้สามารถไล่ระดับและเบลนด์สีได้ดีมาก แถมยังเป็นแปรงที่ไม่กินเนื้อบลัชอีกด้วย

นอกจากนี้ จุดเด่นที่สำคัญ คงหนีไม่พ้นด้ามจับที่พันด้วยไม้วิสทีเรียสุดคลาสสิก สื่อถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความดั้งเดิมของ NARS ออกมาได้อย่างสวยงามหรูหราสมราคา พร้อมออกแบบโคนด้ามเป็นพุ่มช่วยให้เราจับได้อย่างถนัดมือนั่นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเรื่องการทำความสะอาด โดยไม่ควรล้างบ่อยเกินไป เพราะอาจจะทำให้ไม้วิสทีเรียชื้นและหลุดออกจากด้ามได้
ถ้าพูดถึงดีไซน์ที่สวยหรู ดูแพง ก็ต้องยกให้กับ Collection ระดับ 5 ดาวจาก Real Techniques ตัวนี้ ด้วยแปรงขนสังเคราะห์ขนาดเล็ก ทรงกลมปลายมน พร้อมด้ามยาวช่วยให้จับถนัดมือ สามารถกระจายน้ำหนักสีได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีรูปหน้าเล็ก ด้ามจับทำมาจากโลหะ (Metals) จึงแข็งแรงทนทาน ประกอบกับสี Rose Gold สุดหรูหรา ถึงจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ยังทำเอาสาว ๆ หลายคนหลงใหลจนต้องมีไว้ติดโต๊ะเครื่องแป้งกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังสามารถใช้สำหรับคอนทัวหรือไฮไลท์ได้ด้วย แม้ว่าจะพบปัญหาขนแปรงหลุดบ้างเมื่อทำความสะอาดบ่อยเกินไปแต่แปรงรุ่นนี้ก็ยังได้ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพขนแปรงที่ไม่ดูดสี เพราะเมื่อทำความสะอาดแล้วจะกลับมาเป็นสีขาวดูดีเหมือนเดิม
มาต่อกันที่แบรนด์ดังจากเยอรมนีที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ เพราะเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงและความนุ่มที่ลงตัว สำหรับรุ่นนี้นั้นถูกออกแบบมาด้วยขนแพะคุณภาพเยี่ยม รูปร่างแบบเฉียง ทำให้สามารถโค้งรับรูปหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ขนแปรงที่หนาพอเหมาะก็ทำให้การสปริงตัวและการเบลนด์สีทำออกมาได้อย่างลงตัวสวยงาม

ยิ่งไปกว่านั้นความสามารถในการคอนโทรลการไล่เฉดสียังทำให้บรรดามืออาชีพต่างยกให้เป็นแปรงติดท็อปอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ ที่ถูกนึกถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ คนไหนที่ชอบการแต่งหน้าสไตล์ธรรมชาติหรือให้ได้ลุคสดใส ใบหน้าโปร่งมีมิติ ต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน
แปรงกลมมนสุดหรูมาพร้อมด้ามจับสุดคลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ BOBBI BROWN ขนแปรงทำมาจากขนแพะและขนม้าเรียงตัวแน่นเป็นพุ่ม ซึ่งตรงนี้เองทำให้สามารถปัดและคุมสีบริเวณแก้ม ช่วงใต้ตา ร่องแก้ม หรือบริเวณเรียวหน้า ช่วงคาง ออกมาได้ดูดี สีไม่ดูกระจัดกระจาย หรือจะเอาไว้เบลนด์บรอนเซอร์ ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ขนแปรงยังจิกสีขึ้นมาได้อย่างพอดีเพียงแตะบลัชเบา ๆ แต่ไม่ควรล้างแปรงบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ขนแปรงเสียรูปทรงได้ง่าย

ด้วยราคาที่รุนแรงกับกระเป๋าตังค์เหลือเกิน ทำให้หลายคนต้องคิดหนักในการลงทุนไปบ้าง รวมถึงขนาดด้ามจับที่ยาว ก็ส่งผลให้ไม่สะดวกที่จะพกพาไปใช้ยามเดินทาง แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าใครที่ได้ลองใช้ก็ต่างมีฟีดแบคกลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่าคุ้มค่ากับการลงทุนมากจริง ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำอาชีพช่างแต่งหน้าหรือ Makeup Artist
มาถึงอันดับ 1 ที่ทำเอาสาวๆ ติดอกติดใจกันยกใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งแปรงคุณภาพขนาดเล็กรุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความบางเบา มาพร้อมกับนวัตกรรมที่โดดเด่นอย่าง Duo Fibre Design โดยนำเอาขนแปรงทั้ง 2 ชนิดอย่างขนแพะสีขาวนวลและขนสังเคราะห์ที่นุ่มกำลังดีมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ด้วยความหนาที่ลดลงและการเรียงตัวให้มีช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างขนแปรง ทำให้แปรงจับสีขึ้นมาได้กำลังดี อีกทั้งตรงปลายแปรงส่วนที่แคบเข้ามานั้นยังช่วยให้การลงบลัชบนใบหน้ามีความแม่นยำมากที่สุดอีกด้วย

ดังนั้นสำหรับใครที่เน้นการลงสีเข้มหรือต้องการให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นแล้ว ถือว่าแปรงตัวนี้ตอบโจทย์มากเลยทีเดียว เพราะเขาดีไซน์มาเพื่อทำให้การลงสีเกิดเป็นชั้นบาง ๆ และกระจายตัวได้อย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งแปรงปัดแก้มที่มักใช้คู่กับเทคนิคการทำหน้าเรียวหรือเล็กลงนั้นเอง ที่สำคัญยังสามารถใช้ได้กับเครื่องสำอางประเภทอื่นอย่าง บรอนเซอร์ ไพรเมอร์ คอลซีลเลอร์ รองพื้น หรือจะใช้ไฮไลท์บริเวณจุดเล็ก ๆ ให้เกิดความฟุ้งสวยงามก็ได้เช่นกัน ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ ไปเลย

ในปัจุบันต้องยอมรับว่าราคาเครื่องสำอางตลอดจนอุปกรณ์เสริมความงามยี่ห้อชั้นนำต่าง ๆ มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ได้ความคุ้มค่าและคุณภาพการใช้งานที่ดีตามมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อตามงบประมาณและความเหมาะสมก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับต้น ๆ

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความสวยงามก็ยังคงอยู่คู่กับผู้หญิงเราทุกยุคทุกสมัย แต่อย่างไรแล้วต้องคำนึงไว้เสมอว่าความสวยที่ได้มาจากศิลปะการแต่งหน้านั้นเป็นเพียงความสวยงามแบบแต่งเติมชั่วคราว สาว ๆ ต้องไม่ลืมที่จะใส่ใจดูแลผิวในระยะยาว ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพและหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์เสริมความงามเป็นประจำเพื่อสุขอนามัยที่ดีเสมอด้วย